นอกจากการรักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างถูกต้องแล้ว การรับประทานอาหารในแต่ละวันก็มีบทบาทอย่างมากในการช่วยรักษาและป้องกันโรคติดเชื้อในผู้หญิงด้วย เช่นนั้น เมื่อมีอาการติดเชื้อในช่องคลอด ผู้หญิงควรกินอะไรและควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหน มาดูรายละเอียดในบทความนี้เพื่อคำตอบที่ถูกต้องค่ะ
1. โภชนาการมีผลต่อสุขภาพช่องคลอดอย่างไร?
การรับประทานอาหารในชีวิตประจำวันส่งผลโดยตรงต่อลำไส้และจุลินทรีย์ในช่องคลอด อาหารบางชนิดช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน รักษาสมดุลค่า pH ภายในช่องคลอด และลดการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียที่ก่อปัญหา ในทางกลับกัน การกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพจะทำให้ภูมิต้านทานลดลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการอักเสบซ้ำที่ช่องคลอด
2. เมื่อติดเชื้อในช่องคลอด ควรกินอะไร?
เลือกทานอาหารที่เหมาะสมจะช่วยบรรเทาอาการ สนับสนุนการรักษา และลดเวลาในการฟื้นตัว ดังนี้คือ 5 อาหารแนะนำ
2.1 โยเกิร์ต
โยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ดีโปรไบโอติก โดยเฉพาะ Lactobacillus acidophilus ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ช่องคลอด รักษาระดับ pH ธรรมชาติ และป้องกันเชื้อรา Candida ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของการอักเสบช่องคลอด
2.2 ถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองอุดมไปด้วยไอโซฟลาโวน (Isoflavone) ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง มีประโยชน์โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ฮอร์โมนผิดปกติซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มโอกาสติดเชื้อในช่องคลอด
2.3 ผักใบเขียวและผลไม้สด
ผักใบเขียว เช่น ผักโขม บร็อกโคลี ผักโขมหรือผักโขมฝรั่ง และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม, ส้มโอ, สตรอเบอร์รี่, กีวี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อในช่องคลอด
2.4 กระเทียม
กระเทียมถือเป็น “ยาปฏิชีวนะธรรมชาติ” เนื่องจากมีสาร allicin ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย รับประทานกระเทียมสด หรือเพิ่มกระเทียมในอาหารประจำวัน จะช่วยควบคุมเชื้อในช่องคลอดได้
2.5 น้ำ
การดื่มน้ำอย่างเพียงพอช่วยขับสารพิษ รักษาความชุ่มชื้นบริเวณจุดซ่อนเร้นและสมดุลค่า pH ผู้ที่ติดเชื้อในช่องคลอดควรดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน
3. การอักเสบในช่องคลอดควรหลีกเลี่ยงอะไร?
นอกจากรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่ทำให้อาการรุนแรงขึ้นหรือเกิดซ้ำได้ง่าย
3.1 สารกระตุ้นต่าง ๆ
เหล้า เบียร์ กาแฟ บุหรี่ ฯลฯ ทำให้ภูมิต้านทานลดลงและฮอร์โมนแปรปรวนส่งผลให้เชื้อราและแบคทีเรียเติบโตมากขึ้น
3.2 อาหารรสจัดและเผ็ดร้อน
พริกไทย ขิง มัสตาร์ด ฯลฯ อาจทำให้รู้สึกร้อนและระคายเคืองบริเวณจุดซ่อนเร้น อาการอักเสบอาจรุนแรงขึ้น
3.3 ขนมหวาน น้ำตาลสูง
น้ำตาลถือเป็น “อาหารโปรด” ของเชื้อรา Candida การกินของหวาน น้ำอัดลมมากเกินไป ทำให้เชื้อราขยายตัว และเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบซ้ำ
3.4 อาหารทอด มันจัด
อาหารทอด, ฟาสต์ฟู้ด ที่มีไขมันอิ่มตัวสูงส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญและภูมิคุ้มกัน ทำให้การรักษาดำเนินได้ยากขึ้น
3.5 อาหารหมักดอง (ถ้าไม่สะอาด)
ผักดอง กิมจิ ถั่วหมัก ฯลฯ หากไม่ได้ผ่านกระบวนการที่สะอาด จะนำเชื้อโรคสู่ร่างกายและทำลายสมดุลจุลินทรีย์ช่องคลอด
4. วิธีป้องกันการติดเชื้อและอักเสบในช่องคลอด
นอกจากโภชนาการแล้ว ผู้หญิงควรปฏิบัติตามข้อแนะนำนี้ด้วย
- ดูแลความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้น: ล้างด้วยน้ำสะอาดแบบเบา ๆ ไม่สวนล้าง ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม
- มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย: สวมถุงยางอนามัยและงดเว้นขณะติดเชื้อ
- สวมชุดชั้นในที่ระบายอากาศดี: แนะนำผ้าฝ้าย เปลี่ยนทุกวัน
- ตรวจภายในสม่ำเสมอ: ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจหาความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ
- ใช้ชีวิตสมดุล: รับประทานอาหารครบ, พักผ่อนให้พอ, ออกกำลังกายและหลีกเลี่ยงความเครียดยาวนาน
นอกจากปรับอาหารและนิสัยแล้ว คุณผู้หญิงอาจใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Lardy Green – ผลิตภัณฑ์เสริมเพื่อสมดุลฮอร์โมนและส่งเสริมสุขภาพช่องคลอดจากภายในได้เช่นกัน
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม: LARDY GREEN – อาหารเสริมบำรุงสุขภาพสตรี
โภชนาการมีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษาและป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด การเลือกกินอาหารที่เหมาะสมจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน รักษาสมดุลจุลินทรีย์และลดโอกาสเกิดซ้ำ อย่าลืมดูแลตนเองให้ครบทั้งด้านอาหารและสุขนิสัยเพื่อสุขภาพที่ดีตลอดไปค่ะ
